วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557


เครื่องมือประเภทเจาะ

เครื่องมือประเภทเจาะ มีดังนี้
สว่าน ใช้สำหรับเจาะรูเพื่อใส่สกรูหรือเดือย มีดังนี้
1.สว่านมือหรือสว่านเฟือง ใช้สำหรับเจาะรูขนาดเล็ก
2.สว่านไฟฟ้า เป็นเครื่องมือเจาะที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน ใช้เจาะวัสดุต่างๆ เช่น คอนกรีต ปูน โลหะ ไม้ และพลาสติก ใช้งานได้สะดวกและรวดเร็ว เพราะใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงาน
3.สว่านข้อเสือ มีลักษณะเป็นรูปตัวยู มีคันหมุน ต้องใช้ร่วมกับดอกสว่านที่มีขนาด ระหว่าง ¼ - 1 นิ้ว มักใช้ในงานไม้


                              
   สว่านมือหรือสว่านเฟือง 



                         
สว่านไฟฟ้า



                                       
สว่านข้อเสือ
ดอกสว่านมี 19 เบอร์ เริ่มจากเบอร์ที่ 1-1.5-2-2.5-3 จนกระทั้งถึงเบอร์ที่ 10 

 ดอกสว่านมี 3 ชนิด              
1. ดอกสว่านเจาะโลหะ 
- ดอกสว่านแบบ HS High Speed ใช้สำหรับเจาะวัตถุเช่น ไม้ พลาสติก 
- ดอกสว่านแบบ HSS Hih Speed Steel ใช้สำหรับเจาะเหล็กชนิดต่าง ๆ เช่น เหล็กแผ่น เหล็กอ่อน เหล็กเหนียว เหล็กหล่อ มีความแข็งสูงมาก 
2. ดอกสว่านเจาะปูน 
3. ดอกสว่านเจาะไม้ ดอกสว่านที่ใช้งานจะมีหลายขนาด การนำไปใช้งานต้องคำนึงถึงความเร็วที่จะใช้เจาะรูด้วย - ดอกสว่าน ขนาดเล็ก ใช้ความเร็วในการเจาะ สูง - ดอกสว่าน ขนาดใหญ่ ใช้ความเร็วในการเจาะ ต่ำ 


การใช้และบำรุงรักษา
1. ลับดอกสว่านให้คมอยู่เสมอ โดยการใช้หินเจียร
2. ถอดดอกสว่านออก แล้วหมุนหัวจับดอกสว่านให้เข้าที่ หลังการใช้งานทุกครั้ง
3. ทาจารบีที่เฟืองและหัวจับดอกสว่านเดือนละครั้ง
4. เลือกดอกสว่านให้มีฟันเลี้อยและคมจิกที่เหมาะสมกับงาน
5. เลือกความเร็วรอบให้เหมาะสมกับชนิดของวัสดุ และขนาดของรูที่จะเจาะ
6. ไม่ควรใช้มือดึงเศษโลหะในขณะทำการเจาะ
7. ถ้าสว่านติดขัดกับรูเจาะควรปิดสวิทส์ทันที
8. ก่อนเจาะควรตอกเหล็กนำศูนย์ตามตำแหน่งต้องการเจาะเสียก่อน
9. จับชิ้นงานให้แน่น
10.ควรให้คมตัดทั้งสองเริ่มตัดเจาะในตำแหน่งที่ถูกต้อง

เครื่องมือประเภทไสตกแต่ง

เครื่องมือประเภทไสและตกแต่ง มีดังนี้
1.กบไสไม้ ใช้สำหรับปาดผิวไม้ออกเพื่อให้เรียบร้อยและไล่ระดับ มีดังนี้
1.1กบล้างสั้น มีความยาว 6-8 นิ้ว ใช้ไสไม้ที่มีขรุขระ แอ่น บิดงอ ซึ่งกบชนิดอื่นไม่สามารถไสได้ ใบกบทำมุมกับตัวกบ 45 องศา
1.2กบล้างยาว มีลักษณะคล้ายกบล้างสั้น มีความยาว 16-18 นิ้ว ใช้ล้างแนวไม้ให้ตรงใช้ไสไม้ก่อนเพราะติดล้างกัน
1.3กบขูดหรือกบแต่ง ใช้แต่งไม้โค้งเพื่อผิวเรียบซึ่งกบธรรมดาไม่อาจแต่งได้


                                      กบล้างยาว



                                                               
กบขูด
        การใช้กบไสไม้
1.ใช้มือสองข้างจับกบให้แน่น ดันกบด้วยอุ้งมือทั้งสองไปข้างหน้า
2.ใช้ผ้าขี้ริ้วประคองตัวกบให้ตรง ให้ตัวกบเลื่อนไปบนผิวไม้อย่างสม่ำเสมอ อย่าให้กบเอียงหรือตะแคง
3.ขณะที่ไสกบให้โน้มตัวตามกบไปด้วย แล้วค่อยๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าเพื่อให้น้ำหนักตัวช่วยออกแรงไสไปด้วย
สิ่งที่ใช้แทนกบไสไม่หากไม่มี
1. ใช้สิ่วแทนกบไสไม้
         การบำรุงรักษา
1.หลังการใช้งานต้องทำความสะอาดและชโลมน้ำมันบางๆ บนส่วนที่เป็นโลหะ
2.ควรสำรวจความคมของใบกบก่อนใช้งานทุกครั้ง


3.ตะไบ
         เป็นเครื่องมือที่ทำหน้าที่ปรับผิวชิ้นงานให้เรียบหรือตกแต่งชิ้นงานให้มีขนาดตามต้องการ ตะไบทำจากเหล็กผสมคาร์บอน ส่วนตะไบที่ต้องการความคงทนสูงทำด้วยเหล็กกล้า รูปร่างของตะไบนอกจากถูกกำหนดโดยลายตัดขวาง ความถี่ และความลึกของร่องตัด ยังมีผลต่อขนาดของฟันอีกด้วย คือ ตะไบหยาบจะมีฟันลึกและห่างใช้สำหรับงานปาด ส่วนตะไบละเอียดจะมีฟันตัดตื้นและถี่ เหมาะสำหรับงานตกแต่งขั้นสุดท้าย ตะไบมีหลายแบบ ดังนี้ ตะไบแบน ตะไบท้องปลิง ตะไบสามเหลี่ยม ตะไปกลม ส่วนตะไบที่ใช้ในงานไม้ เรียกว่า บุ้ง



                      
  ตะไบแบน  ใช้กับโลหะที่เป็นรูปทรงแนงนอนหรือแนวตั้ง

                                 
ตะไบท้องปลิง  ใช้กับโลหะที่มีรูปทรงเป็นวงรี

                                   
 ตะไบสามเหลี่ยม  ใช้กับโลหะที่เป็นรูปสามเหลี่ยม


           ตะไบกลม  ใช้กับโลหะที่มีรูปทรงเป็นวงกลม

                             

ขนาดของตะไบ มี 4 ขนาด
1. หยาบมาก
2. หยาบปลานกลาง
3. ละเอียดมาก
4. ละเอียดปลานกลาง

 วิธีใช้ตะใบ
1.การใช้ตะไบต้องตรวจสอบชิ้นงานให้ยึดติดกับปากกาให้แน่น
2.มือซ้ายจับที่ปลายตะไบ ส่วนมือขวาจับที่ด้ามตะไบ
3.วางตะไบให้สัมผัสกับผิวชิ้นงานแล้วดันไปข้างหน้า เมื่อสิ้นสุดชิ้นงานให้ดึงกลับ ทั้งนี้จะต้องถูไปมาให้หน้าตะไบสัมผัสกับชิ้นงานตลอด
4.การใช้ตะไบควรเลือกตะไบให้เหมาะสมกับลักษณะงาน
5.การตะไบทุกครั้งจะต้องดันตะไบไปข้างหน้าแล้วดึงกลับ ไม่ควรถูตะไบไปมาอย่างรวดเร็ว
6.ก่อนใช้ตะไบและกบทุกครั้ง ควรตรวจสอบสภาพให้พร้อมใช้งาน เพื่อความปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่น

การจัดเก็บบำรุงรักษา
1. ตรวจดูความเรียบร้อยของใบกบก่อนเก็บเข้าที่
2. ทำความสะอาดตัวกบโดยใช้แปรงปัดเศษไม้ออก
3. ชโลมน้ำมันใบกบก่อนเก็บเข้าที่เก็บ
4. ทำความสะอาดตะไบโดยใช้แปรงทองเหลืองปัดเศษโลหะออก
5. ไม่ควรวางตะไบทับกันเพราะจะทำให้คมตะไบสึกหรอได้ง่าย

เครื่องมือประเภทจับยึด

         เครื่องมือประเภทจับยึด มีดังนี้
1.คีม เป็นเครื่องจับยึดชิ้นงานให้ติดกันหรือดึงชิ้นงาน นอกจากนั้นยังใช้จับ บีบ ดัด ตัด คีมจะมีด้ามโลหะติดกับปากคีม ถ้าใช้ในงานไฟฟ้าจะมีฉนวนหุ้มด้ามคีมทั้งสองข้างอีกครั้ง คีมที่นิยมใช้มีดังนี้
1.1.คีมปากกลม ใช้สำหรับบิดหรือม้วนโลหะ
1.2.คีมปากเรียว ใช้สำหรับจับชิ้นงานชิ้นเล็กๆ หรือตะปูสั้น
1.3.คีมปากแบน ใช้สำหรับจับโลหะแบนหรือสายไฟ
1.4.คีมตัด ใช้สำหรับตัดลวดหรือโลหะเนื้ออ่อน
1.5.คีมรวม ใช้จับ ตัด ม้วนโลหะ
1.6.คีมปากเลื่อน ใช้จับนอตโดยสามารถเลื่อนความกว้างของคีมได้
1.7.คีมปากนกแก้ว ใช้สำหรับถอนตะปู ตัดหัวตะปู ตัดลวดและโลหะเนื้อแข็ง
1.8.คีมล็อก ใช้จับนอตหรือชิ้นงานเพื่อป้องกันการหมุนหรือเลื่อนโดยปากปรับขยายให้กว้างได้และล็อกให้แน่น
1.9คีมปากฉนวน ใช้สำหรับงานไฟฟ้า โดยเฉพาะการปอกสายไฟฟ้า



                                     คีมปากกลม


          
 คีมปากเรียว


                                       
คีมปากแบน

                                        

 คีมตัด



คีมรวม


                                   
คีมปากเลื่อน


                                  
คีมปากนกแก้ว

                                                                                               
                                                                                       คีมล็อก

                                              
                                                                                           คีมปากฉนวน
        
 การบำรุงรักษา
1.ใช้คีมให้ถูกประเภทกับงาน
2.ไม่ควรบีบคีมแรงเกินไปเพราะจะทำให้คีมหัก
3.ไม่ควรใช้ค้อนทุบคีมแทนการตัด
4.ไม่ใช้คีมแทนค้อนหรือเครื่องมืออื่นๆ
5.เช็ดทำความสะอาด หยดน้ำมันที่จุดหมุน แล้วชโลมน้ำมันหลังการใช้งาน

เครื่องมือสำหรับขันและไข

เครื่องมือสำหรับขันและไข มีดังนี้
1.ประแจ เป็นเครื่องมือในการขันหัวสกรูหรือนอต ประแจมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ใช้ เช่น
1.1 ประแจปากตาย ใช้ขัน คลาย ในที่โล่งๆ กว้างๆ และข้อจำกัด จะจับน็อตลื่นได้ง่าย ซึ๋งประแจแหวน โอกาสลื่นได้น้อยกว่า เริ่มจากเบอร์ที่ 6 - 32
1.2 ประแจขอม้า ใช้ในงานขันท่อโลหะ หรือข้อต่อที่มีผิวกลม ไม่เหมาะสำหรับใช้ขันน็อต เพราะจะทำให้หัวน็อตเสียหาย
1.3 ประแจแหวน ใช้ขัน หรือคลายเข้าในที่เป็นซอกหรือหลุม แต่ลึกไม่มาก เริ่มจากเบอร์ที่ 6 - 32
1.4 ประแจบล็อก ใช้แทนขัน หรือคลาย หรือจับน็อต
1.5 ประแจเลื่อน ใช้ขันเกลียว น๊อต หรือ ยึด อุปกรณ์ต่างๆ มีลักษณะเป็นด้ามยาวส่วนหัวมีรูปทรงพอดีกับอุปกรณ์ เพื่อใช้สำหรับล็อกอุปกรณ์เช่น น๊อต

                 
ประแจปากตาย


  ประแจแหวน


                                     
ประแจเลื่อน

                                                                                               ประแจขอม้า


                                                            
                                                                                                ประแจบล็อก

       
การบำรุงรักษา
1.ไม่ใช้ประแจตอกหรือตีแทนค้อน
2.ทำความสะอาดหลังเลิกใช้งาน
3.หลีกเลี่ยงการใช้ประแจที่มีขนาดใหญ่กว่าสกรูหรือนอต

2.ไขควง เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการขันหรือคายตระปูเกลียว ไขควงแต่ละชนิดมีลักษณะคล้ายๆกัน คือ มีส่วนที่เป็นด้ามจับทำด้วยไม้หรือพลาสติก ส่วนที่เป็นไขควงจะเป็นเหล็กกลมหรือสี่เหลี่ยม ไขควงแบ่งออกได้ดังนี้
2.1.ไขควงแบน เป็นไขควงที่ใช้สำหรับขันสกรูที่มีช่องผ่าตลอด
2.2.ไขควงแฉก มีลักษณะเหมือนไขควงแบน ต่างกันตรงปลายไขควงจะเป็นสี่แฉกใช้ขันสกรูที่มีช่องผ่าสี่แฉก
2.3.ไขควงบล็อก มีลักษณะเหมือนไขควงแบน ต่างกันตรงปลายไขควงจะเป็นหัวเหลี่ยมใช้สำหรับนอตหัวเหลี่ยม



               
                                    ไขควงแบน



                         
 ไขควงแฉก



                               
 ไขควงบล็อก

         การบำรุงรักษา
1.ใช้ไขควงให้เหมาะสมกับกับลักษณะงานและร่องของนอตสกรู
2.หลังใช้งานเช็ดทำความสะอาด แล้วเก็บใส่กล่องเครื่องมือ

เครื่องมือสำหรับตอก
                       
เครื่องมือสำหรับตอก มีดังนี้
1.ค้อน  เป็นเครื่องมือสำหรับตอก มีหลายชนิด เช่น ค้อนหัวกลม ค้อนหัวยาง ค้อนหัวหงอน ค้อนไม้



     
   ค้อนหงอน


                       
    ค้อนหัวกลม



                                     
 ค้อนยาง     

         การใช้ค้อน
1.ก่อนใช้ควรตรวจหัวค้อนกับด้ามจับว่าสวมกันแน่นหรือไม่
2.ใช้มือข้างที่ถนัดจับค้อน นิ้วก้อยอยู่ห่างประมารณ 2.5 เซนติเมตร
3.วางหน้าค้อนลงบนหัวตะปูหรือชิ้นงานที่จะตอก ตามองที่ชิ้นงาน
4.หากมีการตอกตะปู ให้ตอกเบาๆ ให้ตะปูเกาะเนื้อไม้ก่อน
5.ยกค้อนสูงประมาณระดับไหล่ ด้ามค้อนอยู่ในแนวดิ่ง
6.ตอกลงให้หน้าค้อนสัมผัสกับชิ้นงานเพื่อให้ได้มุมฉาก
7.ในการตอกตะปูต้องให้น้ำหนักของค้อนเฉลี่ยลงบนหัวตะปูเท่าๆกัน มิฉะนั้นจะทำให้ตะปูงอได้
8.ขณะตอกตามมองไปที่ตำแหน่งที่ตอก
         การบำรุงรักษา
1.เลือกชนิดของค้อนให้เหมาะกับงาน
2.เมื่อใช้งานเสร็จควรเช็ดทำความสะอาด แล้วทาน้ำมันที่หัวค้อนเพื่อป้องกันสนิม

   เครื่องมือสำหรับตัดและผ่า

เครื่องมือสำหรับตัดและผ่า มีดังนี้
1. มีด มีหลายชนิด มีดที่ใช้ในงานช่างพื้นฐานทั่วๆไป มักมักจะเป็นมีดที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ ส่วนใหญ่ใช้ในการผ่า สับไม้




มีด
การใช้มีด
1.จับตรงด้ามมีดโดยใช้มือที่ถนัด
2.ใช้มืออีกข้างจับวัสดุที่จะผ่า
การบำรุงรักษา
1.ควรลับมีดให้คมอยู่เสมอ
2.หลังการใช้งานควรใช้น้ำมันเพื่อป้องการสนิม
3.เก็บในฝักหรือเสียบไว้เป็นที่ให้เรียบร้อย
2) เลื่อย
มีชื่อเรียกตามลักษณะการใช้งานและลักษณะรูปร่าง ในการช่างพื้นฐานจะกล่าวถึงเลื่อยที่ใช้กันทั่วๆไป ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นใบเลื่อยซึ่งทำด้วยเหล็กบาง มีฟันคล้ายกับสิ่วเล็กๆเรียงกันตลอดความยาว และส่วนที่เป็นด้ามมือ ทำจากไม้หรือพลาสติก เลื่อยที่นิยมใช้กันแพร่หลาย มีดังนี้


2.1 เลื่อยลันดา แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
2.1.1. เลื่อยลันดาชนิดตัด ใช้ตัดขวางเสี้ยนไม้ ปลายของฟันจะแหลม เวลาตัดต้องทแยงใบเลื่อยทำมุมกับชิ้นงานประมาณ 15 – 30 องศา
2.1.2. เลื่อยลันดาชนิดโกรก ใช้สำหรับเลื่อยหรือผ่าตามเสี้ยนไม้



เลื่อยลันดา

                การใช้เลื่อยลันดาชนิดตัด
1.ขีดเส้นแนวที่จะตัดโดยใช้ฉาก
2.ยึดไม้ติดกับแม่แรงหรือโต๊ะรองเลื่อย
3.วางฟันเลื่อยลงชนิดกับเส้นบนส่วนที่จะตัดทิ้ง แล้วชักเลื่อยขึ้นก่อน โดยวางนิ้วหัวแม่มือนำแนวการเลื่อย
4.เลื้อยสั่นๆ หลายๆ ครั้ง จนแน่ใจว่าใบเลื่อยจมลงไปในเนื้อไม่พอสมควร จึงเอาฉากเหล็กมาทดสอบ
5.เลื่อยยาวๆอย่างติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ โดยเอียงฟันเลื่อยทำมุมประมาณ 15-30 องศากับไม้หรือชิ้นงาน
6.ก่อนไม้จะขาดต้องเลื่อยสั่นๆ ใช้มือซ้ายจับส่วนที่ตัดทิ้งเพื่อกันมิให้เกิดการชีกของไม้ขึ้น
การใช้เลื่อยลันดาชนิดโกรก
1.กะขนาดที่จะโกรกและขีดเส้นไว้เป็นแนวยาวตลอกระยะที่ต้องการ
2.ยืดไม้บนแม่แรงหรือโต๊ะรองเลื่อย
3.เริ่มต้นโกรกโดยใช้วิธีการเดียวกันกับเลื่อยตัดไม้โดยใช้เลื่อยลัดดาชนิดตัด แต่ต่างกันที่ให้เอียงใบเลื่อนทำมุมประมาณ 60 องศากับไม้
4.เลื่อยต่อไปโดยชักสั่นๆ ใช้มือจับส่วนที่ตัดทิ้งเพื่อป้องกันมิให้เกิดการชีกขาดของไม้
2.2.เลื่อยฉลุ เป็นเลื่อยขนาดเล็ก รูปร่างของโครงเลื่อยเป็นตัวอยู่ ทำด้วยโลหะ ใบเลื่อยเล็กใช้ในงานฉลุลวดลายหรือเลื่อยสิ่งของเล็กๆ



เลื่อยฉลุ
                การใช้เลื่อยฉลุ
1.ใส่ใบเลื่อยเข้ากับโครงเลื่อย โดยให้ฟันเลื่อยหันออกด้านหน้าและคมของใบเลื่อยพุ่งลงข้างล่าง
2.ปรับสกรูให้ใบเลื่อยตึงพอสมควร
3.ขณะเลื่อยชิ้นงานควรบังคับโครงเลื่อยใบเลื่อยให้ตรงและเคลื่อนไหวไปอย่างช้าๆ
การบำรุงรักษา
1.ระวังอย่าให้สกรูจับใบเลื่อยหลุดหาย
2.ทำความสะอาดและทาน้ำมันทุกครั้งหลังการใช้งาน
2.3.เลื่อยตัดเหล็ก
โครงเลื่อยเหล็กมีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างกัน แล้วแต่บริษัทผู้ผลิต แต่ช่วงที่ใส่ใบเลื่อยจะมีระยะห่างเท่ากัน มีรูและสลักสำหรับยึดให้ใบเลื่อยตึงและปรับระยะได้ตามขนาดความยาวของใบเลื่อย



เลื่อยตัดเหล็ก
การใช้เลื่อยตัดเหล็ก
1.ใส่ใบเลื่อยเข้ากับโครงเลื่อย ขันยึดให้แน่นด้วยนอต
2.ปรับใบเลื่อยให้ตั้งพอสมควร อย่าตึงมากเกินไป เพราะใบเลื่อยจะหักได้

การบำรุงรักษา
1.หลังจากการใช้งานให้คลายใบเลื่อยออกเล็กน้อย เพื่อยืดอายุใบเลื่อยให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
2.ใช้แปรงปัดทำความสะอาดทุกส่วน ทาด้วยน้ำมัน แล้วเก็บไว้ในที่เก็บหลังการใช้งาน

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557


เครื่องมือ วัสดุและอุปกรณ์งานช่าง

ความหมายของเครื่องมืองานช่าง
            การทำงานช่าง สิ่งที่สำคัญคือ เครื่องมือ เพราะเครื่องมือจะช่วยให้การทำงานสะดวกและรวดเร็วขึ้น ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในงานช่างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบำรุงรักษา งานติดตั้ง งานซ่อมแซม/ดัดแปลง หรืองานผลิต ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องมือวัด ตัด ตอก เจาะ ไส ประกอบการเชื่อมประสาน
                เครื่องมืองานช่าง หมายถึง สิ่งที่ใช้ในการซ่อม สร้าง และดัดแปลงเกี่ยวกับงานช่าง เช่น การดัด การตอก การวัด การเจาะ การไส การติดตั้ง
ประเภทของเครื่องมืองานช่าง
                เครื่องมือที่จำเป็นในงานช่างพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้และสามารถนำไปใช้ประกอบการปฏิบัติงานซ่อมแซมเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน สามารถแยกออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้

เครื่องมือสำหรับวัด      
เครื่องสำหรับวัด มีดังนี้
1. ไม้บรรทัด ใช้สำหรับวัดระยะสั้นๆ และขีดเส้น


ไม้บรรทัด
การบำรุงรักษา
1.ทำความสะอาดหลังเลิกใช้งาน
2.เก็บรักษาให้เรียบร้อย
2. ตลับเมตร
                ใช้สำหรับวัดระยะมีลักษณะเป็นตลับสี่เหลี่ยมขนาดพอจับมือ ตัวตลับทำด้วยโลหะหรือพลาสติก ส่วนแถบวักทำด้วยเหล็กบางเคลือบสี ปลายแถบวัดจะมีขอเกี่ยวเล็กๆ ติดอยู่



ตลับเมตร

การใช้ตลับเมตร
1.ใช้มือจับปลายเทปแล้วตึงออกจากตลับ
2.ใช้ขอปลายเทปเกี่ยวหัวไม้ที่ตรงและได้ฉาก
3.ทำเครื่องหมายตามระยะที่ต้องการ
การบำรุงรักษา
1.ระวังรักษาขอเกี่ยวปลายเทปไม่ให้หัก
2.เมื่อจะปล่อยเส้นเทปกลับมี่เดิมต้องค่อยๆผ่อน ถ้าปล่อยให้กลับเร็วเกินไปปลายของเกี่ยวอาจชำรุดเสียหายได้
3.ทำความสะอาดหลังเลิกใช้งานแล้วเก็บให้เป็นระเบียบ




3.ฉาก
                เป็นเครื่องมือวัดละเอียดที่ใช้ทางตรงหรือตั้งได้ฉากของงาน รวมทั้งวัดมุมต่างๆ ฉากมี 2 ชนิด คือ
1.ฉากตาย ยึดติดกันตายตัวใช้วัดมุม 90 องศา และ 45 องศา
2.ฉากเป็น ใช้วัดมุมต่างๆ สามารถถอดแยกออกจากกันได้


                 
          ฉากตาย 90 องศา  

                                                     
  ฉากเป็น

        การใช้ฉาก
                ใช้มือจับที่ด้ามมือหนึ่ง ส่วนอีกมือหนึ่งใช้จับชิ้นงานให้อยู่นิ่ง และวางฉากลงบนชิ้นงาน โดยให้ขอบแนบสนิทกับผิวงานด้านเรียบ แล้ววัดระยะฉากหรือขีดเส้นบนชิ้นงานตามจุดที่ต้องการบนใบฉาก
การบำรุงรักษา
1.หลังการใช้งานต้องทำความสะอาด
2.ไม่ใช้ด้ามฉากเคาะหรือตอกแทนค้อน
3.ระมัดระวังอย่าให้ฉากตกลงพื้น เพราะจะทำให้เคลื่อนที่ได้




5. ขอขีดไม้
                ใช้ขีดทำแนวเพื่อเลื่อย ผ่า หรือทำรูเดือย ลักษณะของขอขีดไม้ประกอบด้วยส่วนหัวและส่วนแขน ซึ่งยึดติดกันด้วยสลักหรือลิ่ม ปลายแขนข้างหนึ่งจะมีเข็มเหล็กปลายแหลมติดอยู่ สำหรับขีดให้เป็นรอย



                     
ขอขีดไม้
               
                การใช้ขอขีดไม้
                คลายสักหรือลิ่มออก แล้ววัดระยะห่างจากปลายเข็มกับด้ายให้ได้ขนาดตามแบบที่กำหนด แล้วล็อกให้แน่น จับขอขีดด้านที่มีเข็มให้แนบสนิทกับไม้ กดดันไปข้างหน้าให้ปลายเข็มขีดผิวไม้ตลอดแนวที่ต้องการ
        การบำรุงรักษา
        หลักใช้งานให้เช็ดทำความสะอาด ทาน้ำมันส่วนที่เป็นโลหะ แล้วเก็บให้เรียบร้อย